ยาย้อมผม ยี่ห้อไหนดี

10 อันดับ ยาย้อมผม กำลังมาแรง

อยากเปลี่ยนลุคให้ดูสดใสขึ้นแบบไม่ต้องง้อร้านทำผมไหม?
💇‍♀️ในบทความนี้ เราได้รวบรวม “10 อันดับ ยาย้อมผม ยอดฮิต” ที่ได้รับความนิยมและรีวิวดีจากผู้ใช้จริง พร้อมแนะนำจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อ
เพื่อให้คุณเลือกสูตรที่เหมาะกับเส้นผมและสไตล์ของตัวเองได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสายธรรมชาติ สายแฟชั่น หรือสายปิดผมขาว บทความนี้มีคำตอบครบจบในที่เดียว! 🌈

1.Berina Hair Color Cream เบอริน่า

ผมเบอริน่า Berina hair color Set A24 A46 สีน้ำตาลเชอร์รี่ สีผมเบอริน่า  สีย้อมผม ครีมย้อมผม

ครีมเปลี่ยนสีผม ครีมย้อมสีผม สีย้อมผมเบอริน่า 47 เฉดสี

ราคา: 35 ฿

🛒 สั่งซื้อที่ LAZADA 🛒 สั่งซื้อที่ Shopee

ครีมเปลี่ยนสีผมเบอริน่า แฮร์คัลเลอร์ ครีม มีให้เลือกมากมายถึง 47 เฉดสี และให้ประกายสีชัดสดใส ได้สีตามที่ต้องการ ปิดผมขาวสนิทแนบสนิท สีติดทนนาน ผมนุ่มไม่หยาบกระด้าง เปล่งประกาย ติดทนนาน ปิดผมขาว แล้วยังช่วยปกป้องการทำร้ายเส้นผม ผมไม่เสียหลังจากผ่านการทำสีผม สีแบรนด์เบอริน่าเป็นสีผมที่ต้องเป็นขวัญใจของผู้ที่ชอบทำสีผมเองและมีราคาไม่แพง สบายกระเป๋าแต่ได้สีที่ติดทนนาน มีคุณภาพ

2. Garnier Color Naturals Creme 30 ml. การ์นิเย่

ราคา: 45 ฿

ยาย้อมผมการ์นิเย่ การ์นิเย่ คัลเลอร์ แนทเชอรัลส์ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม สูตรใหม่ ด้วยเทคโนโลยีคัลเลอร์บูสท์ ที่ช่วยให้สีผมดูสวยเด่น ผสานพลังจาก น้ำมันมะกอก อะโวคาโด และ อัลมอนด์ ช่วยล็อคสีผมให้ติดทนนานและพร้อมบำรุงผมให้ผมดูสุขภาพดี

ครีมเปลี่ยนสีผมถาวร เพื่อผมนุ่มสวยไม่แห้งเสีย ปราศจากแอมโมเนีย ให้สีผมดูสวยเด่นชัด แม้บนผมสีเข้ม ปิดผมขาวแนบสนิทถึง 100% ผสานส่วนผสมบำรุง สีผมดูสวยเด่นชัด ผสานพลังจาก น้ำมันธรรมชาติถึง 10 เท่า และมีประสิทธิภาพที่สามารถล็อคสีผมให้ติดทนนานถึง 10 สัปดาห์ และพร้อมบำรุงผมให้ผมดูสุขภาพดี

ยาย้อมผม ยี่ห้อไหนดี?

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะกับสภาพผมของคุณ ผมแนะนำให้พิจารณา 3 ปัจจัยหลักดังนี้:

  1. สภาพผมปัจจุบัน

    • ถ้าผมขาวเยอะ → เลือกย้อมแบบ “ถาวร (Permanent)” ที่ครอบคลุมผมขาวได้ดี

    • ถ้าผมเสีย เคยผ่านเคมีมาเยอะ → เลือกสูตรที่มีการบำรุง หรือเลือกใช้แบบกึ่งถาวรเพื่อลดความเสียหาย

    • ถ้าต้องการสีแฟชั่น/เปลี่ยนบ่อย → ย้อมแบบกึ่งถาวร/แฟชั่นสีได้ (semi-permanent/fashion)

  2. งบประมาณ +ความถี่ในการย้อม

    • ถ้างบน้อย และย้อมไม่บ่อย → เลือกรุ่นราคาประหยัดแต่มีคุณภาพ

    • ถ้าคุณพร้อมลงทุนเพื่อผลลัพธ์ดี + ใช้บ่อย → เลือกรุ่นพรีเมียมหรือสูตรพิเศษ

  3. ความปลอดภัย &การดูแลหลังย้อม

    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายาไม่มีส่วนผสมอันตราย หรือซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ (มี อย./มาตรฐาน) เพราะในไทยมีการเตือนเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยด้วย

    • ทดสอบแพ้ (patch test) ก่อนใช้งานจริงเสมอ

    • หลังจากย้อมแล้ว ดูแลดี เช่น ใช้แชมพู/ครีมหมักสำหรับผมย้อมสี ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงความร้อนมาก

สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อ ยาย้อมผม

ก่อนซื้อ คุณควรดูเงื่อนไขเหล่านี้เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัย:

  • ครอบคลุมผมขาว / รากดำ – ถ้าคุณมีผมขาวเยอะหรือรากขึ้นเร็ว เลือกสูตรที่มีการเคลม “100% ครอบคลุม”
  • ส่วนผสม – ถ้าเส้นผมเคยทำเคมีมาก หรือแห้งเสีย ต้องมองหาสูตรที่มีสารบำรุง ลดแอมโมเนียหรือไม่มีแอมโมเนียก็ได้
  • เฉดสีที่ได้จริง – หลายคนซื้อแล้วได้สีคลาดเคลื่อนจากกล่อง ซึ่งอาจทำให้ผิดหวัง
  • การทดสอบแพ้ – ย้อมผมมีความเสี่ยงเรื่องแพ้หรือระคายเคือง ดังนั้นทดสอบแพทช์ก่อนย้อมจริงทุกครั้ง
  • บำรุงหลังย้อม – สีสวยได้ แต่อย่าลืมดูแลหลังย้อม เช่น ใช้ครีมหมักผมหรือทรีทเมนต์ เพื่อช่วยลดความเสียหาย

ประเภทของยาย้อมผม (แบ่งตามความคงทนของสี)

ยาย้อมผมมีกี่ชนิด "ยาย้อมผม” หรือ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม มีอยู่หลายชนิด ซึ่งแต่ละแบบจะให้ ความคงทนของสี และ ผลลัพธ์ต่อเส้นผม ต่างกัน

1. ยาย้อมผม แบบชั่วคราว (Temporary Hair Color)

ลักษณะ:

  • เป็นสีเคลือบบนผิวเส้นผม
  • ไม่ซึมเข้าแกนผม
  • ล้างออกได้ใน 1–2 ครั้งหลังสระ

ตัวอย่าง:

  • สเปรย์สีผม
  • มาสคาร่าปิดผมขาวเฉพาะจุด
  • เจลหรือโฟมแต่งสีแฟชั่น

ข้อดี:

  • เปลี่ยนสีได้บ่อย ปลอดภัย ไม่ทำลายผม
  • เหมาะกับการทดลองสีแฟชั่น หรือกิจกรรมพิเศษ

ข้อเสีย:

  • สีไม่ติดทน ล้างออกง่าย และอาจเลอะหมอนหรือเสื้อผ้า

2. ยาย้อมผม แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Hair Color)

ลักษณะ:

  • ไม่มีแอมโมเนียและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
  • สีจะค่อย ๆ จางลงภายใน 6–10 ครั้งที่สระผม
  • ไม่สามารถเปลี่ยนสีผมดำให้สว่างขึ้นได้

ตัวอย่าง:

  • โฟมย้อมผมสูตรอ่อนโยน
  • ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมธรรมชาติ เช่น Henna หรือ Hair Gloss

ข้อดี:

  • ไม่ทำลายเส้นผมมาก
  • ให้ผมเงางามและสีดูธรรมชาติ

ข้อเสีย:

  • สีหลุดเร็ว และปิดผมขาวได้ไม่หมด

3. ยาย้อมผม แบบถาวร (Permanent Hair Color)

ลักษณะ:

  • มีส่วนผสมของแอมโมเนียและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
  • สีซึมเข้าสู่แกนผม ทำให้สีติดแน่นและอยู่ได้นาน 6–8 สัปดาห์
  • สามารถเปลี่ยนสีผมดำให้สว่างขึ้นได้

ตัวอย่าง:

  • L’Oréal Excellence
  • Revlon Colorsilk
  • Schwarzkopf Igora Royal

ข้อดี:

  • สีติดทนนาน ปิดผมขาวได้ดีที่สุด
  • มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย

ข้อเสีย:

  • มีสารเคมี อาจทำให้ผมแห้งเสียหรือแพ้ได้
  • ต้องบำรุงผมอย่างต่อเนื่องหลังการย้อม

4. ยาย้อมผม แบบเฮนน่า (Henna Hair Dye)

ลักษณะ:

  • ใช้สีจากธรรมชาติ (พืชเฮนน่า) ไม่มีสารเคมี
  • ให้สีโทนน้ำตาลแดงหรือแดงส้มเป็นธรรมชาติ

ข้อดี:

  • ปลอดภัย ไม่แพ้ง่าย
  • ช่วยเคลือบเส้นผมให้แข็งแรงและเงางาม

ข้อเสีย:

  • สีเลือกได้น้อย (ส่วนใหญ่เฉดส้ม/แดง)
  • ติดนานมาก ล้างออกยาก และย้อมทับด้วยสีเคมีภายหลังได้ยาก

5. ยาย้อมผม ปิดผมขาวแบบแชมพู (Shampoo Hair Color / Easy Dye)

ลักษณะ:

  • ใช้สูตรคล้ายแชมพู ทาแล้วนวด 5–10 นาทีแล้วล้างออก
  • เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการใช้งานง่าย

ข้อดี:

  • ใช้ง่าย ไม่มีกลิ่นฉุน
  • ปลอดภัยกว่ายาย้อมผมถาวรบางสูตร

ข้อเสีย:

  • สีหลุดเร็ว ต้องย้อมซ้ำบ่อย
  • ไม่เหมาะสำหรับการเปลี่ยนสีแฟชั่น

วิธีย้อมผมด้วยตัวเอง

วิธีย้อมผมด้วยตัวเองแบบละเอียด เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และคนที่เคยย้อมแล้ว แบ่งเป็น 3 ช่วงหลัก: ก่อนย้อม – ระหว่างย้อม – หลังย้อม

1. ก่อนย้อมผม (Preparation)

✅ เตรียมอุปกรณ์

สิ่งที่ควรมีให้พร้อมก่อนเริ่ม:

  • ยาย้อมผม (ครีมเปลี่ยนสีผม + น้ำยาไฮโดรเจน)

  • ถุงมือพลาสติก

  • หวีซี่ถี่ / หวีปลายแหลม (ไว้แสกผม)

  • ผ้าคลุมไหล่เก่า ๆ หรือเสื้อผ้าที่ไม่เสียดาย

  • กิ๊บหนีบผม

  • ชามพลาสติกและแปรงย้อม (หากไม่ได้อยู่ในขวดผสม)

  • นาฬิกาหรือตัวจับเวลา

  • กระดาษทิชชู่หรือผ้าชุบน้ำ (ไว้เช็ดคราบที่เปื้อน)

✅ เตรียมเส้นผมให้พร้อม

  • อย่าสระผมก่อนย้อม 1 วัน เพื่อให้ “น้ำมันธรรมชาติ” เคลือบหนังศีรษะ ช่วยลดการระคายเคืองจากเคมี

  • หวีผมให้เรียบและไม่พันกัน เพื่อให้ครีมย้อมกระจายทั่วถึง

  • ทา “วาสลีน” รอบขอบหน้า หู และต้นคอ ป้องกันผิวเปื้อนสี

🎨 2. ระหว่างย้อมผม (Application)

✅ ขั้นตอนการลงสี

  1. ผสมยาย้อมผม ตามสัดส่วนในกล่อง (มักเป็น 1:1)

  2. แบ่งผมเป็น 4 ส่วน — ซ้าย/ขวา หน้า/หลัง แล้วหนีบไว้

  3. เริ่มย้อมจากปลายผมก่อน

    • สำหรับการย้อมสีใหม่: ทาครีมจาก “กลางถึงปลายผม” ก่อน เพราะบริเวณนี้ติดสียาก

    • เว้น “โคนผม” ไว้ประมาณ 1–2 ซม.

  4. ทิ้งไว้ 15–20 นาที (ตามคำแนะนำในกล่อง)

  5. ย้อมโคนผมต่อ แล้วทิ้งไว้อีก 10–15 นาที

  6. นวดครีมให้ทั่วศีรษะเบา ๆ เพื่อให้สีสม่ำเสมอ

💡 เคล็ดลับ: ถ้าเป็น “การเติมโคน” ไม่จำเป็นต้องย้อมทั้งหัว ย้อมเฉพาะส่วนโคนที่งอกใหม่ก็พอ

🚿 3. หลังย้อมผม (Aftercare)

✅ การล้างและดูแลผม

  1. ล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ (ไม่ร้อน) จนน้ำใส

  2. สระด้วยแชมพูสำหรับผมทำสี หรือแชมพูสูตรอ่อนโยน (ไม่มีซัลเฟต)

  3. ใช้ทรีตเมนต์/ครีมนวดบำรุง หลังย้อมเพื่อปิดเกล็ดผม

  4. ซับผมให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนุ่ม ๆ ไม่ขยี้แรง

  5. หลีกเลี่ยงการใช้ไดร์ร้อนจัด อย่างน้อย 2–3 วันแรก

  6. งดสระผม 2 วันหลังย้อม เพื่อให้สีติดทนนาน

ข้อแนะนำเพิ่มเติม
  • เลือกเฉดสีที่ใกล้เคียงกับสีผมธรรมชาติเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้เริ่มต้น
  • ถ้าผมเข้มมากแล้วต้องการเปลี่ยนเป็นสีอ่อนกว่ามาก อาจต้อง “ฟอก/กัดสี” ก่อนซึ่งมีความเสี่ยงสูงและควรทำที่ซาลอน
  • อย่าลืมอ่าน “คำแนะนำวิธีใช้” บนกล่องอย่างละเอียด และเตรียมอุปกรณ์ครบ (ถุงมือ ผ้าคลุม ฯลฯ)
  • หากมีอาการคัน แสบ หนังศีรษะไหม้ หรือมีผื่น ควรล้างออกและหยุดใช้ทันที
สรุป & แนะนำตามสภาพผมของคุณ
  • หากมี ผมขาวไม่มาก และงบไม่สูง → เลือกตัวราคาประหยัด เช่น Cherry ตัว Garnier หรือ Lolane
  • หากมี ผมขาวเยอะ หรืออยากได้ผลลัพธ์ “แบบมืออาชีพ” → เลือกตัวพรีเมียม เช่น L’Oréal, หรือแบรนด์ต่างประเทศ
  • หากอยาก เปลี่ยนสีแบบแฟชั่น (ไม่ใช่แค่ปิดผมขาว) → เลือกเฉดสนุกๆ เช่น Bubble foam หรือเฉดคูลแอช
  • อย่าลืม: ทดสอบแพ้, อ่านคำแนะนำบนกล่อง, ใช้อุปกรณ์ครบก่อนย้อม, และบำรุงหลังย้อมเสมอ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

  • Maecenas tempus tellus eget quam semper

    There are many variations of passages of Lorem Ipsum available, but the majority have suffered alteration in some form, by…

    Read More

  • ยาย้อมผม ยี่ห้อไหนดี

    10 อันดับ ยาย้อมผม กำลังมาแรง อยากเปลี่ยนลุคให้ดูสดใสขึ้นแบบไม่ต้องง้อร้านทำผมไหม? 💇‍♀️ในบทความนี้ เราได้รวบรวม “10 อันดับ ยาย้อมผม ยอดฮิต” ที่ได้รับความนิยมและรีวิวดีจากผู้ใช้จริง พร้อมแนะนำจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อ เพื่อให้คุณเลือกสูตรที่เหมาะกับเส้นผมและสไตล์ของตัวเองได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสายธรรมชาติ สายแฟชั่น หรือสายปิดผมขาว บทความนี้มีคำตอบครบจบในที่เดียว! 🌈 1.Berina Hair Color…

    Read More

  • โหราจารย์: รวมผู้ชำนาญในวิชาโหราศาสตร์ไทย โหร หมอดู ผู้ทำนาย คนพยากรณ์

    ความหมายและประวัติศาสตร์ของโหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์ไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ โหราศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการทำนายและคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆ โดยใช้ระบบดวงดาวและเวลา โหราศาสตร์ไทยมุ่งเน้นการวิเคราะห์พลังงานของดวงดาวในแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้ได้คำทำนายที่แม่นยำ การศึกษาโหราศาสตร์ไทยต้องอาศัยความรู้ในเรื่องดวงดาว การเคลื่อนที่ของดวงดาวในระบบสุริยะ รวมถึงการคำนวณเวลาที่สัมพันธ์กับดวงดาวเหล่านั้น ประวัติศาสตร์ของโหราศาสตร์ไทยนั้นมีรากฐานมายาวนาน โหราศาสตร์ในประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากโหราศาสตร์อินเดียและโหราศาสตร์จีน โดยโหราศาสตร์อินเดียถูกนำเข้ามาโดยพ่อค้าที่เข้ามาค้าขายและเผยแพร่ศาสนาพุทธในช่วงแรกของประวัติศาสตร์ไทย ในขณะที่โหราศาสตร์จีนก็ได้รับการนำเข้ามาผ่านทางการติดต่อค้าขายและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีน ในยุคสมัยสุโขทัย โหราศาสตร์ไทยเริ่มมีการบันทึกและพัฒนาเป็นระบบมากขึ้น มีการนำโหราศาสตร์มาใช้ในการทำนายเหตุการณ์สำคัญ เช่น วันเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทำพิธีกรรมหรืองานสำคัญต่างๆ ในสมัยอยุธยา…

    Read More

  • โหราจารย์: รวมผู้ชำนาญในวิชาโหราศาสตร์ไทย โหร หมอดู ผู้ทำนาย คนพยากรณ์

    โหราศาสตร์ไทย: พื้นฐานและความสำคัญ โหราศาสตร์ไทยเป็นศาสตร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญอย่างยิ่งในวัฒนธรรมไทย โหราศาสตร์ไทยใช้หลักการคำนวณตำแหน่งของดวงดาวและเคราะห์ต่างๆ เพื่อทำนายเหตุการณ์ในชีวิตของบุคคล ศาสตร์นี้ไม่เพียงแค่ทำนายอนาคต แต่ยังรวมถึงการให้คำปรึกษาและแนะแนวทางในการดำเนินชีวิตอีกด้วย ประวัติศาสตร์ของโหราศาสตร์ไทยสืบเนื่องมาจากการผสมผสานความรู้จากโหราศาสตร์อินเดีย จีน และอาหรับ ซึ่งได้เข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเข้าสู่ประเทศไทย ศาสตร์นี้ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องและปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย จนกลายเป็นโหราศาสตร์ไทยที่เฉพาะเจาะจง การคำนวณในโหราศาสตร์ไทยอาศัยตำแหน่งของดวงดาวและเคราะห์ต่างๆ เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์อื่นๆ โดยการคำนวณเหล่านี้จะต้องใช้อุปกรณ์และวิธีการเฉพาะ…

    Read More